เพราะเคยประสบความสำเร็จงดงามใน 2 ปีที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากเกาะอังกฤษ John Lewis จึงเดินตามรอยเท้าเดิมอีกครั้งด้วยการเปิดแคมเปญสุดซึ้งต้อนรับวันคริสมาสต์ในรูปแบบวิดีโอ 3D แอนิเมชั่นบอกเล่าเรื่องราวระหว่างกระต่ายป่าเพื่อนซี้และหมีขี้เซา ถือเป็นอีกกรณีศึกษาสำคัญเรื่องการใช้สัญลักษณ์เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์อย่างได้ผล
John Lewis เป็นแบรนด์ห้างเมืองผู้ดีอังกฤษที่ออกแคมเปญโฆษณาสุดซึ้งช่วงเทศกาลคริสมาสต์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดปีนี้ (2013) ห้าง John Lewis กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งในรูปแบบของนิทานอนิเมชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูนของ Walt Disney ซึ่งออกแบบและควบคุมโดยเอเจนซี่การตลาด Adam&eveDDB และ Blinkink-Hornet โดยการนำภาพวาดด้วยมือมาผสมผสานกับเทคนิค 3 มิติ (3D)
วิดีโอโฆษณา 3D แอนิเมชั่นที่บอกเล่าเรื่องราวของหมีไฮเบอร์เนตในเช้าวันคริสมาสต์นี้ถูกมองว่าเป็นครั้งแรกของวงการโฆษณาอังกฤษที่จัดเต็มความยาวโฆษณามากกว่า 2 นาที โดยเนื้อหาของนิทานเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของหมีไฮเบอร์เนตที่ไม่เคยเห็นและรู้จักกับกาลคริสมาสต์เลยเพราะต้องจำศีลในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นกระต่ายเพื่อนซี้จึงได้ซื้อนาฬิกาปลุกให้ของขวัญวันคริสมาสต์เพื่อช่วยปลุกให้หมีขี้เซาตื่นมาร่วมสนุกสนานและเฉลิมฉลองกันในช่วงเทศกาลคริส มาสต์ ภายในนิทานนอกจากพระเอกอย่าง หมีและกระต่ายคู่ซี้แล้ว ยังมีการนำตัวการ์ตูนสัตว์นานาชนิดจากนิทานชื่อดังของ Walt Disney อย่าง เรื่อง Snow White และ Bambi มาร่วมในนิทานอีกด้วย และไม่เพียงเท่านั้นยังมีการนำเพลง Somewhere Only We Know ที่ร้องโดย Lily Allen มาประกอบเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเพิ่มมากยิ่งขึ้น
James Murphy CEO ของ Adam&eveDDB แผยว่า แคมเปญโฆษณาดังกล่าว นอกจากเป็นการสร้างสรรค์และริเริ่มความคิดใหม่ที่แตกต่างจากรูปแบบเดิมที่เคยมีมาแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนปลุกความเด็กที่มีอยู่ในตัวตน ให้ตื่นขึ้นมาและร่วมเฉลิมฉลองกันในเทศกาลคริสมาสต์
แคมเปญโฆษณาปีนี้ John Lewis ยังได้ผลิตสินค้าออกมาเพื่อช่วยโปรโมทหลายรูปแบบอย่าง eBook, หนังสือปกแข็งและของเล่นที่เกี่ยวข้องกับหมีไฮเบอร์เนตและกระต่ายคู่ซี้ อีกทั้งยังมีการโปรโมทผ่านทางสื่อทั้งบนโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter ที่มาพร้อมกับแฮชแท็ก #sleepingbear รวมไปถึงยังมีการโปรโมทภายในห้างสรรสินค้า, Window Display และฉายโฆษณากลางแจ้ง
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา แคมเปญโฆษณาของ John Lewis ที่ปล่อยช่วงเทศกาลคริสมาสต์ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2011 โฆษณาของ John Lewis ในชื่อ “The Long Wait” ก็ได้รับเสียงตอบรับจนเชื่อว่ามีผลทำให้ยอดขายประจำปีเพิ่มขึ้นกว่า 9.3% ไม่เพียงเท่านั้นในปีก่อน (2012) แคมเปญ “The Journey” ที่มีเพลงประกอบชื่อ “The Power Of Love” โดยวง Frankie Goes To Hollywood ก็ได้รับคำชมจนกลายเป็นที่นิยมบน Youtube มาแล้ว
หากอยากรู้ว่าโฆษณาของ John Lewis จะสร้างความประทับได้ขนาดไหน ติดตามคลิปด้านล่างได้เลย
ที่มา: Adage