ไขจุดเด่น GIF ทำให้นักการตลาดเข้าถึง”อารมณ์-ความรู้สึกของผู้บริโภค”

เป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับบริษัทผู้พัฒนาภาพ GIF เพื่อใช้ในเชิงการตลาดอย่าง Tenor ที่จะเรียกเก็บค่าบริการจากแบรนด์ก็ต่อเมื่อภาพ GIF นั้น ๆ ถูกผู้บริโภคเลือกไปใช้งาน 

โมเดลธุรกิจนี้ของ Tenor ประสบความสำเร็จได้เพราะบริษัทมีองค์ความรู้ที่สำคัญมากข้อหนึ่งที่พวกเขานำมาแชร์ให้ฟัง นั่นคือพวกเขารู้ว่า ผู้บริโภคจะเลือกส่งภาพ GIF ที่สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตนเองในขณะนั้นได้ดีที่สุด ไม่ใช่ภาพที่เห็นแล้วก็รู้เลยว่าต้องการโฆษณาให้กับแบรนด์ใดสักแบรนด์

ด้วยเหตุนี้ ไฟล์ GIF ที่จะถูกใช้บ่อยจึงไม่ใช่ GIF รูปสิ่งของหรืออาหารอย่างไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ หรือพิซซ่า แต่เป็นรูปที่แสดงถึงความหิว ความสุข ความดีใจ ความขอบคุณ หรือการทักทายในเทศกาลต่าง ๆ ฯลฯ เป็นต้น และเป็นสิ่งที่นักการตลาดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลายต่อด้วย เพราะการรู้ว่าผู้ใช้งานรู้สึกอย่างไร หรือต้องการอะไร ก็จะทำให้การเสนอโฆษณาให้สอดคล้องกับความต้องการนั้น ๆ ทำได้ดีมากขึ้น

โดยปัจจุบัน Tenor เป็นบริษัทผู้ผลิต GIF อันดับสองใน App Store ของ Apple รองจาก Giphy ซึ่งไฟล์ GIF ที่ Tenor สร้างขึ้นก็มีการนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายแพลตฟอร์มทั้ง Facebook, WhatsApp, iMessage, Twitter ฯลฯ รวมถึงยังมีเครื่องมือช่วยนักการตลาดให้สามารถดูข้อมูลได้ว่า ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมกับ GIF แต่ละตัวอย่างไร (แบบเรียลไทม์) เพื่อให้นักการตลาดสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการวางแผนการตลาดได้นั่นเอง

จากภาพด้านล่าง เครื่องมือของ Tenor บอกได้เลยว่าผู้บริโภครู้สึก “หิว” กันตอนไหนบ้าง

หรือถ้าแบรนด์ใดอยากมีส่วนร่วมในการแสดงความรู้สึกของผู้บริโภคก็สามารถบอกกับทาง Tenor ให้เพิ่มแบรนด์ของตัวเองลงไปใน GIF ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Domino’s Pizza, Dunkin Donuts และ Wendy’s

โดยทาง Wendy’s นั้นตั้งเป้าต่างออกไป พวกเขาไม่ได้ต้องการรู้แค่ว่าผู้บริโภคหิวตอนไหน แต่ต้องการให้แบรนด์ของตัวเองเป็นส่วนหนึ่งใน GIF ที่ผู้บริโภคใช้แสดงความรู้สึกเวลาหิวด้วย จึงทำให้มีการใส่คาแรคเตอร์ของ Wendy’s ลงไปใน GIF

Jason Krebs ผู้อำนวยการด้านธุรกิจของ Tenor เผยว่า ข้อดีคือบริษัทไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อโปรโมต GIF แต่อย่างใด เพราะ Tenor จะเรียกเก็บเงินก็ต่อเมื่อมีผู้บริโภคเลือก GIF นั้น ๆ มาใช้เท่านั้น

โดยปัจจุบัน Tenor มีผู้เข้ามาเสิร์ชหา GIF ที่ตัวเองอยากใช้ประมาณ 300 ล้านครั้งต่อวัน (จากทุกแพลตฟอร์มที่ให้บริการรวมกัน) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ GIF จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษเพราะคนชอบส่งทักทายกัน หรือในช่วงที่มีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ GIF เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันด้วย

Tenor บอกด้วยว่า หาก Google รู้ข้อมูลของผู้บริโภคจากการเสิร์ช Facebook รู้ข้อมูลของผู้บริโภคจากคลิก Like ก็คงไม่แปลกหาก Tenor จะรู้ถึง “อารมณ์และความรู้สึก” ของผู้บริโภคผ่านการใช้งาน GIF นี่เช่นกัน 

ที่มา: BusinessInsider