Quantcast
Channel: Digital Advertising – Thumbsup
Viewing all articles
Browse latest Browse all 1958

Pepsi เปลี่ยนป้ายรถเมล์ที่อังกฤษธรรมดาๆ ให้เป็นฉากหนังสุดระทึก

$
0
0

bus-shelter

ปกติการรอรถเมล์หรือรถโดยสารบ้านเราก็จะต้องรอที่ตำแหน่งป้ายรถเมล์ ซึ่งบางป้ายก็มีที่หลบแดด แผงกั้นสวยงาม บางทีก็ไม่มี แม้กระทั่งป้ายรถเมล์เองก็ยังไม่มีเลย (นับเป็นเรื่องตลกร้ายในบ้านเรา) ป้ายรถเมล์เมืองไทยดูไปแล้วอาจจะไม่น่าสนใจเท่ากับต่างประเทศ ซึ่งเลยเป็นที่มาให้เกิดโฆษณาบนโลกออนไลน์ตัวนี้ของทาง Pepsi ที่ทำให้ป้ายนี้ไม่ธรรมดาอย่างป้ายทั่วๆ ไป

เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ถูกเอามาใช้เรื่อยๆ โดยแบรนด์ต่างๆ เพราะมันสร้างความตื่นตาตื่นใจได้เสมอ แต่ตัวที่หยิบมาพูดถึงนี้เป็นการทำให้ป้ายรอรถเมล์ใน UK ไม่ธรรมดา โดยทาง Pepsi ใช้ชื่อว่า ‘Unbelievable’ Bus Shelter ล้อกับแคมเปญ Pepsi Max. Unbelievable โดยการติดตั้งจอภาพพร้อมติดจอที่ด้านหลังของฝาด้านข้าง และทำการซ่อนกล้องไว้ที่ด้านหลังเพื่อเก็บภาพไว้ จากนั้นซ้อนภาพด้วยเทคโนโลยี AR เพื่อให้ภาพที่ฉายเข้ามาในบริเวณที่รอรถ ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพจากวิดิโอที่ติดอยู่ด้านหลังที่ทำเป็นว่าเป็นกระจกใส แต่ที่จริงเป็นจอภาพขนาดใหญ่

ภาพที่ฉายออกมานั้นจะเป็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าเหลือเชื่อ แต่ทำออกมาได้เสมือนกับเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นอุกกาบาตพุ่งมาใส่, เสือวิ่งเข้ามา หรือมีคนห้อยมากับลูกโป่ง สร้างความตกใจให้กับคนที่รอรถเมล์และเห็นภาพที่ปรากฎบนจอได้เป็นอย่างดี จนทำให้คนนั้นถ่ายรูปเก็บไว้ (แน่นอนว่าต้องแชร์ให้คนอื่นดูต่อผ่านช่องทางต่างๆ) และสุดท้ายก็ต้องวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านหลัง จนได้พบกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ว่าเป็นของ Pepsi Max พร้อมกับสโลแกนแคมเปญ Maximum Taste ล้อกับซึ่งจริงๆ แล้วก็มีป้ายเล็กๆ อยู่ที่ใต้จอว่าเป็นของ Pepsi Max อยู่แล้ว

ด้วยเทคโนโลยีที่เลือกใช้งานก็ถือว่าเลือกได้เหมาะกับ Key Message Unbelievable ที่ตั้งมาครับ และด้วย Gimmick ที่บังคับให้คนหันมาสนใจป้ายโฆษณา Pepsi ก็ดูแล้วน่าจะตรงกับความต้องการที่จะให้เดินมาดู แม้จะดูเหมือนเป็นการให้หน้าม้ามาเล่นไปสักนิดก็ตาม แต่ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยครับ

ลองดูกันครับว่าป้ายรถเมล์ที่ว่านั้นเป็นอย่างไร

ปล.จากการสอบถามหลายๆ ท่านที่เชี่ยวชาญด้าน AR แล้ว มีความเห็นตรงกันว่าผลงานนี้ไม่ได้ใช้ AR แต่อย่างใด แต่เป็นการซ้อนวิดิโอเข้าไปอีกชั้นหนึ่งครับ ดังนั้นทางผู้แปลจึงขอดึงคำว่าเทคโนโลยี AR ออกจากบทความนี้ครับ

ที่มา: DigitalBuzz


Viewing all articles
Browse latest Browse all 1958

Trending Articles