Quantcast
Channel: Digital Advertising – Thumbsup
Viewing all articles
Browse latest Browse all 1969

มาแรง! การตลาดผ่าน YouTube ยอดผู้ Subscribe แบรนด์ต่างๆ พุ่ง 70%

$
0
0

นอกจากเนื้อหาการตลาดประเภทภาพ และบทความแล้ว ปัจจุบันที่อิรนเทอร์เน็ตนั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีความรวดเร็วมากขึ้น ผู้บริโภคมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะบริโภคสื่อต่างๆ ในรูปแบบวิดีโอออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งการชมโฆษณา หรือวิดีโอที่มีเนื้อหาการตลาดของแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะบน YouTube

youtube-channel-disney-parks

จากรายงานของ OpenSlate พบว่าแบรนด์ยอดนิยมกว่า 500 แบรนด์บน YouTube ต่างก็เห็นยอดการกด Subscribe บน Channel ของพวกเขามากขึ้น โดยจากตัวเลขผู้ใช้งาน YouTube ที่กด Subscribe เนื้อหาของแบรนด์ต่างๆ ที่มีเพียง 37,000 คนในตอนแรก กลับเพิ่มขึ้นมากถึง 82,000 คนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือมีอัตราการเติบโตที่มากถึง 70%

นอกจากนี้ทาง OpenSlate ยังรายงานอีกว่าแบรนด์ยอดนิยมต่างๆ ทั้ง 500 แบรนด์บน YouTube นั้นมียอดการเข้าชมเนื้อหาของพวกเขามากถึง 722 ล้านครั้งต่อ 1 เดือน นอกจากนี้ OpenSlate ยังได้เผยข้อมูลจากการสอบถามเหล่า Media Buyer จำนวน 313 ราย ว่า 41% ของพวกเขามีแนวโน้มว่าจะใช้เงินเพื่อการโฆษณาบน YouTube มากขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า

โดยเทรนด์ความนิยมการทำการตลาดผ่าน YouTube นั้นมีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 2009 โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบน YouTube ทั้ง 100 แบรนด์นั้นต่างก็มีความถี่ในการโพสต์เนื้อหาจากแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นถึง 73% ต่อปี นอกจากนี้จากข้อมูลของ Pixability ยังได้คาดว่าในปี 2015 ที่จะถึงนี้ แบรนด์ยอดนิยมบน YouTube ทั้ง 100 แบรนด์นี้จะหันมาลงทุนการสร้างเนื้อหาและการนำเสนอเนื้อหาบน YouTube มากถึง 1 ล้านครั้งในปีนั้น

โดยด้านล่างนั้นเป็นชาร์ตแสดงปริมาณ Channel ของแบรนด์ต่างๆ บน YouTube ที่แบ่งกันไปตามประเภทของกลุ่มธุรกิจ

Top-500-Brand-Channels-by-industry-of-channels_chartbuilder

นอกจากนี้ OpenSlate ยังได้ทำการศึกษา Channel ของแบรนด์ต่างๆ บน YouTube ที่ไม่เกี่ยวข้องกันกับธุรกิจประเภทความบันเทิง และได้พบว่าแบรนด์ต่างๆ ในกลุ่ม Tech Business นั้นเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีผู้เข้าชมวิดีโอมากที่สุด ตามมาด้วยเนื้อหาจากแบรนด์ประเภทธุรกิจการค้าปลีก และประเภทยานพาหนะ

Top-5-tech-brands-on-YouTube-by-of-subscribers-Subscribers_chartbuilder

โดยแบรนด์จากธุรกิจประเภท Tech Business ที่มีผู้ใช้งาน Subscribe บร Channel ของพวกเขามากที่สุดนั้นได้แก่ Google ที่มีผู้เข้าชมเนื้อหาของพวกเขามากถึง 2.6 ล้านคน ตามมาด้วย Apple ที่ 1.9 ล้านคน และ GoPro 1.8 ล้านคน

Top-5-brands-on-YouTube-by-total-video-views-Total-video-views_chartbuilder

ต่างอย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมจากแบรนด์ต่างๆ ที่เผยแพร่เนื้อหาผ่าน YouTube ในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ แบรนด์ที่มีผู้ใช้งานเข้าชมเนื้อหาของพวกเขามากที่สุดจากรายงานของ Pixability นั้นคือ Disney  ที่มีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอของพวกเขามากถึง 2 หมื่น 6 พันล้านคน ตามมาด้วย Google ที่มีผู้เข้าวิดีโอของพวกเขามากถึง 1 หมื่น 5 พันล้านคน  แม้ว่า MTV จะสร้างเนื้อหาเพื่อเผยแพร่บน YouTube ถี่มากที่สุด แต่กลับมียอดผู้เข้าวิดีโอของพวกเขาต่ำกว่า Disney เป็นอย่างมากที่ 23,756 แต่ Disney นั้นมีคลิปวิดีโออยู่ที่ 15,367 คลิปแต่กยังไม่สามารถเอาชนะ Disney ได้ ทั้งนี้ทาง Pixability ได้เผยว่าความนิยมในการชมเนื้อหาต่างๆ บน YouTube นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อหาด้วยเช่นกัน

of-brand-YouTube-content-by-industry-that-is-repurposed-commercials-_chartbuilder

นอกจากนี้จากการเก็บข้อมูลของ OpenSlate จากกลุ่ม Media Buyer ต่างๆ ยังพบว่า 33.2% ของแบรนด์ต่างๆ มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะใช้โฆษณา TV ของพวกเขาเพื่อเผยแพร่บน YouTube อีกด้วย โดยคลิปจากโฆษณาบนโทรทัศน์นั้นเป็นเนื้อหาส่วนมากที่แบรนด์ต่างๆ เผยแพร่บน Channel ของพวกเขา โดยบางแบรนด์นั้นมีแนวโน้มว่าจะเผยแพร่เนื้อหาในลักษณะดังกล่าวมากกว่า เนื้อหาอื่นๆ อีกด้วย โดยแบรนด์ต่างๆ ในกลุ่มร้านอาหารส่วนมากนั้นมีแนวโน้มว่าจะเผยแพร่วิดีโอทีมาจากโฆษณโทรทัศน์มากกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่ 54.6% ในขณะที่เนื้อหาของแบรนด์ประเภท Tech Business นั้นมีเพียง 1.3% ที่เป็นคลิปวิดีโอที่มาจากโฆษณาโทรทัศน์

ทำให้สามารถสรุปได้ว่า 4 ใน 5 จากตัวเลขการชมคลิปวิดีโอของแบรนด์ต่างๆ บน YouTube นั้นมาจากการชมเนื้อหาของแบรนด์ประเภท Tech Business ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะแบรนด์เหล่านั้นมีการเผยแพร่เนื้อหาเดียวกันกับบนโทรทัศน์ที่ต่ำกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ มาก

of-total-video-views-over-1-year-of-total-views_chartbuilder

นอกจากเรื่องคุณภาพของเนื้อหาแล้ว ปัจจัยเรื่องระยะเวลาการเผยแพร่เนื้อหานั้นก็มีผลเช่นกัน โดยทาง Pixability ได้เผยว่าเนื้อหาต่างๆ บน Facebook นั้นต่างก็อยู่บน News Feed อย่างมากเพียง 22 ชม. เท่านั้น แต่ทว่ากับบน YouTube ระยะเวลาการแสดงผลของเนื้อหานั้นต่างจาก Facebook เป็นอย่างมาก โดยช่วง 3 สัปดาห์แรกของการเผยแพร่เนื้อหา เนื้อหานั้นๆ จะสามารถสร้างยอดการเข้าชมได้มากถึง 40% จากยอดการเข้าชมโดยรวม หลังจากนั้นอีก 12 สัปดาห์เนื้อหาเหล่านั้นจะมียอดการเข้าชมเพิ่มขึ้นอีก 30% จากยอดการเข้าชมโดยรวม และอีก 30% เช่นกันในช่วงสัปดาห์ที่ 12- 52

ที่มา : Digiday

 

ภาพ : corporate-eye


Viewing all articles
Browse latest Browse all 1969

Trending Articles