Moleskine แบรนด์สมุดระดับโลกทำแคมเปญเก๋รับวันลายมือเขียนแห่งชาติหรือ National Handwriting Day ปีนี้ โดยเชิญชวนให้เซเลบฯและชาวเน็ตร่วมกันเขียนข้อความบนกระดาษและโพสต์ภาพถ่ายกระดาษแผ่นนั้นพร้อมกับเขียนแฮชแทค #HandwritingDay และ #Moleskine ซึ่งผู้ร่วมสนุกสามารถนำโพสต์นี้ไปแสดงเพื่อรับสมุดมาใช้ฟรี
วันลายมือเขียนแห่งชาติหรือ National Handwriting Day ซึ่งตรงกับวันที่ 23 ม.ค. ของทุกปีนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิดของ John Hancock ผู้ลงนามในใบประกาศอิสรภาพของชาวอเมริกันในปี 1776 ด้วยลายเซ็นตัวใหญ่สวยงาม เพื่อเฉลิมฉลองวันนี้ ชาวสหรัฐฯและชาวโลกจำนวนไม่น้อยจึงหันมารณรงค์ให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการเขียนด้วยลายมือ ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่บ่อยในวันที่การพิมพ์ข้อความบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ทำได้ง่ายกว่า
สำหรับปี 59 แบรนด์สมุดชื่อดังอย่าง Moleskine ร่วมรณรงค์กิจกรรมในวัน National Handwriting Day ด้วยการชวนให้ชาวออนไลน์โพสต์ภาพลายมือเขียนของตัวเองบน Twitter, Instagram และ Facebook โดยดึงเซเลบฯผู้มีชื่อเสียงอย่าง Bruce Willis และคอลัมนิสต์นักคิดนักเขียนหลายราย มาร่วมกิจกรรมเพื่อปลุกกระแสให้ผู้ใช้ทั่วไปเกิดอารมณ์อยากหยิบปากกาขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างบ้าง
ลายมือเขียนของ Bruce Willis ที่ถูกโพสต์บนโซเชียล
เพียงติดแทค #HandwritingDay และ #Moleskine ก่อนโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถเดินทางไปที่จุดจำหน่ายสมุด Moleskine เพื่อแสดงโพสต์และรับสมุดไปใช้ฟรี
ลายมือของ Mauro Toselli ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของบริการ Sketchnoter
เหตุผลที่ทำให้การเขียนด้วยลายมือถูกรณรงค์อย่างจริงจังคือการเขียนด้วยลายมือนั้นมีความสำคัญจนไม่ควรถูกลืมเลือนไป หลายคนมองว่าลายมือเขียนทำให้ผู้เขียนเป็นเหมือนศิลปิน แถมยังสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้เขียนได้ดีกว่าการพิมพ์ข้อความ ที่สำคัญ ลายมือเขียนยังสามารถเพิ่มความใกล้ชิดเข้าไปในจดหมาย เรียกว่าเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับบุคลิกภาพของผู้เขียนได้ด้วย
สำหรับ Moleskine แบรนด์สมุดชื่อดังนี้ถูกคนไทยเรียกว่าเป็นสมุดในตำนาน เพราะมีประวัติความเป็นมายาวนานระบุว่าศิลปินชื่อดังของโลกหลายคนต่างเคยใช้ในการจดความคิด ออกแบบ หรือประพันธ์หนังสือ เช่น แวนโก๊ะ หรือ ปีกัสโช่ ก็เคยใช้สมุดโน้ตไร้เส้นบรรทัดอย่าง Moleskine โดยแบรนด์นี้เป็นผู้เริ่มนำสายยางรัดสมุดโน้ตมาใช้ก่อนที่หลายแบรนด์จะเดินตามในปัจจุบัน
ยังมีภาพลายมือของบุคคลน่าสนใจที่ถูกโพสต์บน Twitter อีกมาก สามารถติดตามได้จากที่มาจ้ะ
ที่มา : AdWeek