เพราะเมื่ออากาศร้อน ไอศกรีมเย็นๆและเบียร์แช่แข็งจะขายดี แต่ถ้ามีลมฝนเมื่อใด สินค้าเพิ่มความอบอุ่นจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า ความจริงนี้เองที่ทำให้ช่องสถานีพยากรณ์อากาศในสหรัฐฯ หันมาพัฒนาแพลตฟอร์มบริการการตลาดใหม่ ที่จะสามารถดึงดูดแบรนด์ดังให้ลงโฆษณาตามข้อมูลความต้องการหรือดีมานด์ของลูกค้า ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ
ช่องสถานีพยากรณ์อากาศหัวใสรายนี้คือ The Weather Channel ซึ่งแจ้งเกิดแพลตฟอร์มชื่อ Weather FX แพลตฟอร์มนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดแบรนด์ดังที่ตั้งใจลงโฆษณาตามสื่ออเมริกันอยู่แล้ว ด้วยการเสนอคำพยากรณ์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลาสั้นๆ โดยจะอิงตามสภาพอากาศที่สถานีพยากรณ์ได้
หลักการของ Weather FX คืออุณหภูมิและลมพายุฝนนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อความต้องการบริโภคไอศกรีมและเบียร์ของชาวอเมริกัน ดังนั้น Weather FX จึงต้องการใช้ผลการพยากรณ์สภาพอากาศในการประเมินว่าผู้บริโภคจะต้องการซื้อสินค้า 2 ชนิดนี้อย่างไรในอนาคต โดยเหตุผลที่ทำให้สินค้า 2 ชิ้นนี้ถูกประเดิมในโครงการนี้ก่อนสินค้าใด คือการสำรวจที่พบว่ายอดขายของเบียร์และไอศกรีมนั้นได้รับผลกระทบจาก 2 ปัจจัยสภาพอากาศทั้งลมฝนและอุณหภูมิมากที่สุด
แน่นอนว่า Weather FX ได้ทำการบ้านต่อยอดความรู้เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคในระหว่างสภาพอากาศต่างๆมาเป็นอย่างดี โดย 1 ในหลายข้อสังเกตที่ Weather FX ค้นพบคือชาวนิวยอร์กส่วนใหญ่มักจะจ่ายเงินซื้อเบียร์แช่แข็งในช่วง 3 วันหลังจากช่วงที่สภาพอากาศร้อนกว่าค่าเฉลี่ยปกติในช่วงฤดูร้อน เรียกว่าต้องร้อนสะสมซักพักก่อนจึงจะยอมควักเงินซื้อเบียร์มาซดให้เย็นใจ
สำหรับตลาดไอศกรีม ชาวเมืองลอสแองเจลิสส่วนใหญ่จะซื้อไอศกรีมในช่วงที่ลมไม่แรง (ความเร็วลมลดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย) และต้องเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อุณหภูมิไม่หนาวเกินไป
ข่าวนี้สะท้อนให้เราเห็นความสำคัญของข้อมูลในยุคดิจิตอล เพราะข้อมูลธรรมดาล้วนสามารถนำมาต่อยอดจนกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากไม่ต่อยอดเช่นนี้ Weather Company ต้นสังกัดของ The Weather Channel ก็คงทำได้เพียงแค่เก็บข้อมูลพยากรณ์อากาศไว้ อย่างที่เคยทำมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
ที่มา: PSFK